“ ในบางประเทศเขาอนุญาตให้เล่นการพนันที่ถูกกฎหมาย แต่จุดสำคัญคือ ต้องเล่นในที่มิดชิด ไม่ให้ปะปนอยู่กับเด็ก แต่ของไทยนี่เล่นอยู่ในครอบครัว โทรศัพท์แทงบอลก็ได้ แทงหวยก็ได้ เป็นเรื่องง่ายดายมาก ”

 
 
ผลโพลหลายสำนักชี้ตรงกันว่า เวลานี้มีเด็กและเยาวชนตกเป็นทาสของการพนันจำนวนหลักล้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีข้อมูลที่น่าตกใจว่า จากจำนวนเด็กประถมทั้งประเทศ 5 ล้านคน มีเด็กประถม 3 แสนกว่าคนที่ติดการพนัน ส่วนเด็กมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา อุดมศึกษาที่ปัจจุบันมีอยู่ 7 ล้านคน ติดการพนันประมาณ 1.1 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเล่นการพนันฟุตบอล
 
                ตัวเลขเหล่านี้นับว่าเป็นตัวเลขที่น่ากลัวสำหรับสังคมไทย เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าการพนันจะนำมาซึ่งปัญหาสังคมหลายด้าน ทั้งปัญหาการลักเล็กขโมยน้อย การขายตัวเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทองเพื่อนำไปเล่นการพนัน และที่สำคัญอย่างยิ่งคือเมื่อเยาวชนของชาติจำนวนมากกลายเป็นนักพนัน อนาคตของชาติจะเป็นอย่างไร
 
                คุณสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ กรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติและผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก วิเคราะห์ถึงปัญหาเด็กและเยาวชนกับการพนันไว้ได้ดังนี้
 
                “การเล่นการพนันของสังคมไทยได้กระจายตัวอยู่ทุกจุด ทุกมุมของสังคมไทย แม้แต่ในครอบครัวเองก็มีการเล่นการพนันกันเองระหว่างพ่อแม่ พี่น้อง ญาติๆ ถ้าเด็กตกอยู่ในสภาวะแวดล้อมแบบนี้ก็จะซึมซับ เพราะว่ามีต้นแบบในการดำเนินชีวิตที่ผิด
 
                ผู้ใหญ่ที่เชียร์บอล พนันบอล ก็มักจะปฏิบัติตัวอย่างไม่มีระเบียบวินัยในชีวิต เช่น นอนดึก ตื่นสาย โดดงาน เพื่อเล่นการพนันหรือดูฟุตบอล จนกลายเป็นนิสัยประจำชาติ สังคมไทยก็รับโดยกลายๆ อย่างไม่เป็นทางการว่าถ้ามีบอลนัดสำคัญในคืนไหน รุ่งเช้าทุกคนก็ไปทำงานสายโดยทั่วกันหมด ตอนเช้ามีรถจำนวนน้อยจนถนนโล่ง เวลาที่ผู้คนเดิทางออกจากบ้านเปลี่ยนไป แสดงว่าการดูฟุตบอลและการเล่นพนันฟุตบอลมีอิทธิพลสูงมาก เพราะฉะนั้นอิทธิพลขนาดนี้ แน่นอนว่าไม่มีทางเลี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อพฤติกรรมของเด็ก โดยเฉพาะความคลั่งไคล้เรื่องการพนันกระจายไปทั่วทุกหัวระแหง ทุกซอกซอย ทุกหมู่บ้าน
 
                ในบางประเทศเขาอนุญาตให้เล่นการพนันที่ถูกกฎหมาย แต่จุดสำคัญคือ ต้องเล่นในที่มิดชิด ไม่ให้ปะปนอยู่กับเด็ก แต่ของไทยนี่เล่นอยู่ในครอบครัว โทรศัพท์แทงบอลก็ได้ แทงหวยก็ได้ เป็นเรื่องง่ายดายมาก ขณะที่แทงบอลเด็กก็นั่งอยู่ด้วย หรือไม่ก็นั่งเล่นพนันในบ้านเลย ขณะที่ในต่างประเทศนักพนันก็ไปสุมหัวกันอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นการเฉพาะ ไม่ได้กระจายอยู่ตามบ้านแบบคนไทย นี่คือลักษณะโครงสร้างทางสังคมที่แตกต่างกัน"
 
ที่มา  ทอฝัน ปันรัก วารสารเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและครอบครัว
        ปีที่ 10 ฉบับที่ 68  www.thaichildrights.org