คุณหมอสุกมล วิภาวีพลกุล จิตแพทย์ให้คำปรึกษาด้านปัญหาชีวิตคู่ ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับรสนิยมในการมีความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวสมัยนี้ที่มีความเปลี่ยนแปลงจากค่านิยมเดิมๆ มาก ไม่ว่าจะเป็นความกล้าที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายเริ่มจีบฝ่ายชายก่อน หรือเรื่องการรักษาพรหมจรรย์จนถึงวันแต่งงานที่เริ่มลดน้อยถอยลง

          นี่คือ 5 สัญญาณอันตรายสำหรับชีวิตคู่ที่น่าเป็นห่วง

          1. หนุ่มสาวนิยมเป็นโสดเยอะขึ้น

          โสดในที่นี้ไม่ได้หมายถึงโสดสนิทจนไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศกับใคร เเต่กลายเป็นมีไปทั่ว เเละเห็นว่าการมีเพศสัมพันธ์แบบชั่วข้ามคืนเป็นเรื่องธรรมดา

          2. ชีวิตคู่แบบอยู่ด้วยกันโดยไม่แต่งงาน

          หนุ่มสาวสมัยนี้พอใจที่จะอยู่กินกันโดยไม่ต้องจดทะเบียน หรือมีพิธีสมรส แต่ก็ใช้ชีวิตร่วมกัน มีกิจกรรมร่วมกัน มีเพศสัมพันธ์ร่วมกัน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการกลัวความเหงาที่ต้องอยู่คนเดียว เเต่จะให้แต่งงานเป็นสามีภรรยาก็ผูกมัดเกินไป หลายคนหวงชีวิตที่อิสระ บางครั้งก็ไปมีความสัมพันธ์ืกับคนอื่นโดยไม่ถือว่าเป็นชู้ เพราะที่เป็นคู่อยู่ก็ไม่ถือว่าเป็นสามีภรรยา

          3. เริ่มต้นกันง่าย พอเลิกกันก็ไม่ยาก

          เปรียบเทียบการครองคู่ทุกวันนี้ไม่ต่างจากการถ่ายรูป สมัยก่อนการถ่ายภาพด้วยกล้องแบบใช้ฟิล์ม ม้วนหนึ่งมีประมาณ 36 รูป กว่าจะถ่ายได้แต่ละรูปต้องคิดแล้วคิดอีกว่าคุ้มหรือไม่ แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นกล้องดิจิตอลไปแล้ว ถ่ายทิ้งถ่ายขว้าง ถ่ายไปเรื่อยเปื่อย ภาพไหนชอบก็เก็บไว้ ภาพไหนไม่ถูกใจก็ลบทิ้ง เทียบความสัมพันธ์แล้ว ทุกวันนี้ก็เป็นแบบไฮสปีดและดิจิตอลเหมือนกัน

          4. การหย่าร้างสูงขึ้น

          เพราะคนเรามีความอดทนต่อกันน้อยลง ไม่มีการอะุ้ลุ่มอล่วยต่อกัน แต่ละคนก็ได้รับความเอาอกเอาใจจากพ่อแม่อย่างเต็มที่ จนกลายเป็นคนเอาแต่ใจ ปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นไม่เป็น เพราะคุ้นเคยแต่การให้คนอื่นปรับตัวเข้าหา พอแต่งงานมีคู่สมรส ก็เลยปรับตัวกันยาก แต่ละคนก็คาดหวังให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้เป็นอย่างที่เราคาดหวังต้องการเพียงอย่างเดียว

          5. พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวมากขึ้น

          พอพ่อแม่แยกทางกันมากขึ้น เราจะได้เห็นพ่อเลี้ยงลูกโดยไม่มีแม่ หรือแม่ที่เลี้ยงลูกตามลำพัง หรือญาติพี่น้องช่วยกันเลี้ยง เป็นจำนวนมาก ก็จะเห็นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเมื่อเลิกกับคนเก่าก็เริ่มต้นกับคนใหม่ แล้วมีลูกกันไปเรื่อยๆ หรือบางครอบครัวอาจมีน้องชาย 3 คน คนแรกพ่อแม่เดียวกัน คนรองพ่อเดียวกัน แต่คนละแม่ ส่วนคนสุดท้ายแม่เดียวกันแต่คนละพ่อ

          คุณหมอกล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ควรต้องมีการปฏิวัติเรื่องการมีชีวิตคู่ให้กับหนุ่มสาวยุคนี้ เพื่อไม่ให้เกิดสังคม “อุดมตัณหา” ทั้งนี้ หนุ่มสาวทุกคนที่ต้องการมีชีวิตคู่ยืนยาวก็ควรรักษาไว้ให้ดี ก่อนที่จะตกลงปลงใจกับใคร โดยจะต้องใช้ทั้งความรู้สึกและความคิดประกอบกัน อาจเริ่มจากการใช้ความรู้สึกเป็นตัวเลือกว่าชอบหรือไม่ชอบก่อน แล้วจึงใช้ความคิดตรวจสอบว่าเขาคือคนที่ใช่หรือไม่
 

ที่มา : โรงพยาบาลมนารมย์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก โพสต์ทูเดย์