เครือข่ายรณรงค์หยุดพนันยื่นหนังสือถึงDSIสอบเว็บฯสื่อกีฬาลงโฆษณาเว็บพนันออนไลน์

 ด้าน“มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน” วอนรัฐปรับปรุงกฎหมายให้ครอบคลุมพนันบอล-พนันออนไลน์และเพิ่มบทลงโทษ         
                วันนี้ (1 มี.ค.2555) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน  เครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา  มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว  มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน และนักเรียนนักศึกษา กว่า 40 คน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อนายธาริต   เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  เพื่อแสดงความขอบคุณที่ ดีเอสไอ นำปัญหาพนันออนไลน์เป็นคดีพิเศษพริอมเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับ หนังสือพิมพ์กีฬาที่ลงโฆษณาเว็บพนันออนไลน์  โดยนำหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับ  มามอบเป็นหลักฐาน          
นายอิมรอน   เชษฐวัฒน์   ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน  กล่าวว่า  จากข้อมูลสำรวจสถานการณ์พนัน โดยสถาบันวิจัยสังคม  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 2553  พบว่า มีเงินหมุนเวียนในวงจรพนันของไทยสูงถึง 357,275 ล้านบาท  ที่น่าห่วงที่สุดคือเราพบเด็กอายุ 7 ขวบเข้าสู่วงจรการพนันแล้ว  เป็นสัญญาณที่อันตรายยิ่งซึ่งหนึ่งในรูปแบบการพนันที่อยู่ในขั้นวิกฤต  คือ เว็บไซต์พนันออนไลน์  ที่มีเด็กและเยาวชนเป็นเหยื่อพนันมากขึ้นเรื่อยๆ  และจากการที่ดีเอสไอนำปัญหาดังกล่าวเข้าเป็นคดีพิเศษนั้นถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม  และต้องขอขอบคุณที่ยังมีหน่วยงานซึ่งเห็นความสำคัญของปัญหานี้  เพราะเป็นเรื่องที่กระทบกับเด็กและเยาวชน  ดังนั้น  เพื่อการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน  ที่ต้องการสนับสนุนมาตรการของภาครัฐในการป้องกันและปราบปรามเว๊ปพนันออนไลน์  เครือข่ายจึงได้นำหนังสือพิมพ์ กีฬาจำนวน 5 ฉบับ ที่มีการลงโฆษณาเว๊ปพนันออนไลน์อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายเพื่อขอให้ ดีเอสไอ ดำเนินคดีกับเจ้าของหนังสือพิมพ์ผู้ทำการโฆษณา  รวมถึงเจ้าของเว๊ปไซค์และผู้ที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด
    “สิ่งที่ประชาชนต้องการเห็น คือภาครัฐมีนโยบาย บทลงโทษที่ชัดเจน และเจ้าหน้าที่ต้องเข้มแข็ง มีมาตรการเพื่อยับยั้งการเล่นพนันออนไลน์ทุกรูปแบบ  ขณะเดียวกัน จริยธรรมของนักข่าวกีฬาก็เป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งทราบมาว่า สภาการหนังสือพิมพ์และคนทำข่าวกีฬา กำลังจัดทำคู่มือการทำข่าว เพื่อสอดแทรกจรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ดี คาดว่าอีกไม่นานคงเห็นการเปลี่ยนแปลง เกิดการทำข่าวน้ำดีขึ้น และเชื่อว่านักข่าวกีฬายุคใหม่ควรเลิกพูดถึงแต้มต่อ เลิกโฆษณา” นายอิมรอน   กล่าว 
          นายพิริยะ ทองสอน  เลขาธิการมูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน  กล่าวว่า  แม้กรมสอบสวนคดีพิเศษจะสั่งปิดเว็บพนันออนไลน์ทั้ง 7เว็บไซต์ไปแล้ว แต่ยังพบเว็บไซต์จำนวนมากที่ผิดกฎหมายเปิดลอยนวลอยู่  ส่วนหนังสือพิมพ์กีฬาที่ลงโฆษณาการพนันออนไลน์ ถือว่ามีความผิด ตามพ.ร.บ.การพนัน 2478 มาตรา 12 อย่างชัดเจน คือเป็นความผิดฐานประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 
นายพิริยะ  กล่าวด้วยว่า  การพนันออนไลน์   เป็นปัญหาที่มีทั้งแนวกว้าง  คือไม่เพียงเข้าถึงง่ายและแพร่หลายทั่วไป  แต่ยังมีปัญหาแนวลึกคือ  ไม่ว่าการพนันจะถูกกฎหมายหรือไม่  ผู้ที่ติดการพนันหรือมีหนี้สินจากการพนันจะสร้างปัญหาในสังคมทุกด้านจากปัญหาครอบครัว  อาชญากรรม  หนี้สิน  ชิงทรัพย์  ทวงหนี้  รวมทั้งนายทุนผู้มีอิทธิพล  ทั้งในและต่างประเทศ  ที่พยายามผลักดันให้การพนันถูกกฎหมายในหลายๆ รูปแบบ  ล้วนต้องการผลประโยชน์จำนวนมากจากเงินของประชาชนที่ยังไม่รู้เท่าทัน
 
กฎหมายที่บังคับใช้อยู่ยังเก่าเกินที่จะจัดการปัญหาทุกอย่างได้  การปรับปรุงกฎหมายจึงจำเป็น  เรื่องจำเป็น  แต่ต้องโปร่งใสและไม่สร้างปัญหาซ้ำเติม  หรือเปิดช่องให้การพนัน  และที่สำคัญรัฐบาลควรบูรณาการ  งานพนันออนไลน์  ร่วมกับกระทรวง ไอซีที  กรมสอบสวนคดีพิเศษ  และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับการปราบปรามยาเสพติดที่รัฐบาลพยายามจับกุมดังที่เห็นเป็นข่าวเสมอ  นายพิริยะ  กล่าว