เมื่อ 9 ก.พ. ที่อุทยานการเรียนรู้ ทีเคพาร์ค ในการเสวนาเรื่อง จริงหรือไม่ "รักเรื่องเล็ก sex เรื่องใหญ่" โดยน.ส.เข็มพร วิรุณราพันธ์ ผู้จัดการแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเด็กและเยาวชน กล่าวว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของวัยรุ่นที่มีต่อเรื่องเพศสัมพันธ์ภายใต้หัวข้อ "รักจริงรอได้" ซึ่งสำรวจความคิดเห็นเยาวชน 2,428 คน ระหว่างวันที่ 22-27 ม.ค.
ผลการสำรวจพบว่า วัยรุ่น 4 ใน 5 ที่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นจะให้ความสำคัญกับความรัก ซึ่งเห็นว่าความอบอุ่นจากความรักสำคัญกว่าเรื่องเซ็กส์ นอกจากนี้ วัยรุ่น 59% ต้องการขอคำปรึกษาจากพ่อแม่เป็นหลัก ดังนั้นการเรียนรู้เรื่องเพศจำเป็นต้องเริ่มตั้งแต่ครอบครัว
น.ส.เข็มพร กล่าววส่า ผลสำรวจพบว่า เด็ก 4 ใน 5 เห็นว่าเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องใหญ่ โดยเพศหญิงเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ 86.04% และชาย เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ 69.75% โดยเด็กมัธยม ปวช. จะเห็นว่าเซ็กส์เรื่องใหญ่กว่า เด็กมหาวิทยาลัย
โดยพบว่า วัยรุ่นที่อยู่กับพ่อแม่ จะเห็นเซ็กส์เป็นเรื่องใหญ่มากกว่าครอบครัวเดี่ยว โดยเฉพาะครอบครัวที่ไม่มีแม่ จะเห็นเซ็กส์เป็นเรื่องเล็กมากกว่าครอบครัวอื่น เมื่อแบ่งตามพื้นที่พบว่า เด็กในกทม. ปริมณฑล และภาคเหนือ จะเห็นเซ็กส์เป็นเรื่องเล็กกว่าพื้นที่อื่น
"ผลสำรวจพบว่า วัยรุ่น 4 ใน 5 หรือ 77.77% ไม่เห็นด้วยกับการใช้เซ็กส์เป็นเครื่องแสดงความรักกับแฟน โดยวัยรุ่นหญิงไม่เห็นด้วย 86.95% วัยรุ่นชายไม่เห็นด้วย 65.63% และเพศที่สามไม่เห็นด้วย 63.95% และเมื่อถามคำถามว่าจะแสดงความรักอย่างไร วัยรุ่นมีคำตอบที่หลากหลาย ทั้งให้ดอกไม้ แต่งกลอน ชวนทำบุญ กอด และเซ็กส์" น.ส.เข็มพร กล่าว
น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ กล่าวว่า ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับเยาวชน คือ การขาดข้อมูลที่ถูกต้อง และความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมทั้งขาดที่ปรึกษาไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือโรงเรียน โดยมีงานวิจัยที่ถามเด็กถึงการมีเพศสัมพันธ์ เด็กก็ตอบว่าวันวาเลนไทน์ ไม่ใช่วันที่จะมีเพศสัมพันธ์ เพราะเป็นวันที่ผู้ใหญ่จับตามอง และส่วนใหญ่กิจกรรมที่เกิดขึ้นเป็นตอนกลางวัน ต่างจากวันลอยกระทง หรือ เทศกาลอื่นที่มีงานตอนกลางคืนทำให้มีโอกาสมีเพศสัมพันธ์มากกว่า ซึ่งหากร่วมกันทำความเข้าใจจะพบว่าสถานที่ เวลา และโอกาส คือ ความเสี่ยงที่เด็กจะมีเพศสัมพันธ์ได้ ไม่ใช่แค่วันวาเลนไทน์เท่านั้น
"สถานที่เสี่ยงมีอยู่ทั่วไป และเกิดขึ้นได้ทุกวัน เช่น ตอนกลางวันที่บ้าน ซึ่งพ่อแม่ ไปทำงาน หรือ ปัจจุบันในต่างจังหวัดจะพบว่า มีธุรกิจที่เปิดเป็นรีสอร์ตขนาดเล็ก ให้เช่าเป็นรายวัน รายชั่วโมง และไม่จำกัดอายุของผู้จะเข้าพัก หรือในกทม.และปริมณฑล ก็มีห้องพักรายชั่วโมง รายวัน ให้เช่า โดยห้องพักลักษณะนี้จะถูกจับจ้องน้อยกว่า หากจะเปรียบเทียบก็เหมือนกับธุรกิจม่านรูดในสมัยก่อน ซึ่งคงต้องขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณทางธุรกิจว่าจะเอาใจใส่เรื่องความเสี่ยงของเยาวชนหรือไม่ เพราะไม่ได้มีกฎหมายใดๆ ควบคุม" น.ส.ณัฐยา กล่าว
ที่มา วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ข่าวสดออนไลน์