โดยประธานเครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ ระบุว่า ทางกลุ่มมีข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ดังนี้

            1. ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสุขภาพจิตของผู้แสดง โดยหากพบว่า ชายคนดังกล่าวมีสุขภาพจิตที่เปราะบางหรือพิการ ให้ดำเนินการต่อสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ตามโทษที่บัญญัติไว้ตามกฎหมายอย่างสูงสุดและเคร่งครัด

            2. ขอให้ผู้ผลิตรายการและสถานีโทรทัศน์แสดงความรับผิดชอบโดยถอดรายการนี้ออกจากผังรายการ

            3. ต้องการให้สภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย) ใช้กลไกการกำกับดูแลตัวอย่างเต็มที่ ในกรณีที่พิสูจน์แล้วว่าผิดจริงตามข้อบังคับ

            4. เรียกร้องให้ กสทช. ลงโทษทางปกครองสูงสุดกับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในฐานะผู้รับใบอนุญาต ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 37 ของ พระราชบัญญัติประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ที่ห้ามมิให้ออกอากาศรายการ ที่มีเนื้อหาสาระที่มีผลกระทบต่อศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือมีผลกระทบต่อการ เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจของประชาชน

            ด้าน น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการ กสทช. กล่าวว่า รายการดังกล่าวถูกร้องเรียนเป็นครั้งที่ 2 แล้ว จากนี้จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม ในวันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2556 เพื่อหารือว่า ทำผิดตามมาตรา 37 จริงหรือไม่ รวมทั้งจะส่งเรื่องให้สภาวิชาชีพฯ พิจารณาด้านจริยธรรมการนำเสนอของรายการต่อไป

            อย่าง ไรก็ตาม ทุกช่องควรมีการทบทวนเรื่องการจัดเรตติ้งรายการโทรทัศน์ โดยเฉพาะรายการในวันหยุด ซึ่งเป็นเวลาของครอบครัว รวมถึงต้องใช้ดุลยพินิจในการจัดผังรายการ เนื่องจากกำลังจะก้าวเข้าสู่การประมูลทีวีดิจิตอลนั่นเอง