8 มี.ค.56 นางฐาณิชชา ลิ้มพานิช ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีมติให้เปิดช่วงเวลาขายสลากด้วยเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติหรือหวยตู้ เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. ว่า การเปิดช่วงเวลาดังกล่าวแสดงว่าสำนักงานสลากฯไม่ได้มีมาตรการในการดูแลควบคุมเด็กอย่างจริงจัง เพราะอยู่ในสถานที่และเวลาที่เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้ และจะส่งผลกระทบโดยตรงกับเด็กที่จะทดลองเล่นอย่างแน่นอน อีกทั้งไม่จำกัดอายุในการซื้อ ส่งผลต่อปัญหาที่จะตามมาทั้ง อาชญากรรม หนี้สิน ดังนั้นกองสลากต้องระบุสถานที่ตั้ง และเวลาให้ชัดเจน โดยเครือข่ายฯขอเรียกร้องให้เปิดจำหน่ายเป็นช่วงเวลา 22.00 น.- 05.00 น. เพราะแม้แต่สลากกินแบ่งยังไม่ใช้เวลาที่จำหน่ายมากขนาดนี้
“ที่ผ่านมารัฐบาลมีพฤติกรรมที่เร่งรัดออกหวยตู้โดยไม่สนใจผลกระทบ สิ่งที่สนง.สลากกำลังเดินหน้า มีเพียงเรื่องตรวจสอบจุดจำหน่าย ความพร้อมของตู้ วิธีการออกรางวัล โดยไม่สนใจเรื่องที่ควรดูแล อย่างไรก็ตาม เครือข่ายครอบครัวมีจุดยืนที่ไม่เอาหวยตู้ แต่เมื่อรัฐบาลเดินหน้าโครงการนี้แล้ว ก็ขอให้มีเพียง 6 ตัว เพื่อป้องกันการเพิ่มปริมาณและพื้นที่ของการพนัน อีกทั้งต้องตรวจสอบผู้จำหน่ายอย่างจริงจัง มีกล้องวงจรปิด มีมาตรการลงโทษผู้ค้าที่จำหน่ายให้กับเด็ก เช่น ยึดตู้และทำลายทิ้ง ส่วนสถานที่ตั้งหวยตู้ ไม่อยากให้มีตามร้านสะดวกซื้อ เพราะจะถือว่ากองสลากกับร้านสะดวกซื้อมีสัญญาอะไรกันหรือไม่ เหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น”
นางฐาณิชชา กล่าวต่อว่า เรื่องที่สนง.สลากเร่งรัดจำหน่ายหวยตู้ ได้มีการศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน เพราะข้อมูลที่ทาง สนง.สลากฯบอกประชาชนไม่ได้เป็นข้อเท็จจริง แต่เป็นข้ออ้างและเบี่ยงเบนความเชื่อเท่านั้น จากนี้ เครือข่ายฯจะติดตามการทำงานของรัฐบาล และร่วมเฝ้าระวังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดว่าใครที่ได้ประโยชน์จากการเร่งรัดนโยบายหวยตู้
 
 ขอขอบคุณ เนื้อหาจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า